1/29/2009

จับสัญญาณ เกย์ดาร์ ผู้ชายข้างกายเป็น เกย์แอบ หรือเปล่า ?

จับสัญญาณ เกย์ดาร์ ผู้ชายข้างกายเป็น เกย์แอบ หรือเปล่า ?
.


1. ชอบกลับบ้านดึกๆ กลับมาแล้วชอบตวาดแว๊ดด ใส่

หากโดนเซ้าซี้ถามว่าไปไหน บางรายจะตวาดแรงมาก จนภรรยาต้องผวา ไม่กล้าถามอีกเลย


2. เวลาขอหลับนอนมีอะไรด้วย เขามักจะมีข้ออ้างเป็นประจำว่า เหนื่อย

เขาอาจจุมพิตคุณเบา ๆ หนึ่งที นั่นแหละทำได้แค่นั้น มันเหลือฝืนเต็มทน เขาจะเริ่มแสดงอาการเบื่อ ๆ ให้เห็นมากขึ้น เซ็กซ์กลายเป็นเรื่องไม่น่าสนใจสำหรับเขา บางรายมีหนเดียวในรอบหลายปี และดูราวจะไม่มีอารมณ์ร่วมด้วยอีกแล้วชาตินี้ แม้คุณจะพยายามเซ็กซี่ทุกราตรีก่อนเข้านอน


3. ชอบแสดงอาการเกลียดตุ๊ดอย่างรุนแรง

มีอคติกับตุ๊ดเสียเหลือเกิน เห็นอะไรตุ๊ดแต๋ว จะมีคอมเมนต์แบบรับไม่ได้อย่างนั้นอย่างนี้ จนคุณเองก็รำคาญ แล้วสงสารตุ๊ดแทน


4. หายไปนาน ๆ บางคนชอบหนีภรรยาหรือแฟนไปหาชายหนุ่มนอกบ้านไกลๆ

เพราะกลัวคนเห็น สถานที่นัดพบของเกย์ไม่รักดีในกลุ่มนี้ก็จะเป็น ห้องใต้ดิน ห้องสุขา สวนสาธารณะ ซึ่งแสนจะนัดง่าย สะดวกสบายไปหมด หนำซ้ำยังมีทั้งมือถือและอินเทอร์เน็ต เวลาติดต่อหาที่ระบายความรุ่มร้อนส่วนมากก็จะเกิดขึ้นตอนเดินทาง หรือตอนอยู่ในที่ทำงาน


5. ชอบบอกภรรยาหรือแฟนสาวว่า ออกไปกินเหล้ากับเพื่อน

เพื่อนนัดบ้าง มีประชุมบ้าง งานยุ่งบ้าง แต่หารู้ไม่ว่า เขาไปเที่ยวเล็งหนุ่มอะโกโก้ เดี๋ยวนี้หาเด็กขึ้นเตียงได้ง่าย โรงแรมก็มีแถวๆ นั้น กลับมาบ้านก็จะออดอ้อนคำหวานเพื่อให้คุณหลงกลต่อไป (เช่นผมรักคุณคนเดียว)


6. ผู้ชายประเภทนี้เวลาเมาเหล้าจะแสดงอาการมองหนุ่มหล่อ แต็บหลุดตุ๊ดแตก

พูดคุยแบบสนุกสนาน เข้าไปสนิทสนมกับชายแบบออกหน้าออกตา ไม่มีมาดอีกต่อไป เวลาไม่เมาไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย


7. ชอบแสดงอาการแปลก ๆ เวลาเผลอ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเกย์ออกสาวเวลาตกใจ

ไม่ทันตั้งตัว หรือเวลาเขาถูกใจอะไรสักอย่าง โดยที่ไม่มีใครอยู่รอบข้าง เขาจะเผลอร้องด้วยเสียงแหลม ราวกับนักร้องโซปราโน่


8. บางครั้งเวลามีเซ็กซ์กับคุณสาวๆ ถ้าเขาส่งเสียงแปลกๆ ให้ระวังไว้ซะ

นั่นหมายความว่า ผู้ชายที่นอนอยู่ข้างๆ นั่น เป็น... หรือเปล่า ทั้งๆ ที่คุณไม่ได้ทำอะไรรุนแรงเกินเหตุ บางทีเขาอาจกำลังจินตนาการถึงชายอื่น แล้วงึมงำเป็นชื่อคนนั้น เพื่อให้เขาปฏิบัติกิจผ่านไปได้ ฟังดี ๆ


9. ชายกลุ่มนี้ชอบซุกซ่อนรสนิยมทางเพศของตัวเองเอาไว้ในสถานที่ลับตาคน

อะไรเสียล่ะ ถ้าไม่ใช่รูปโป๊ผู้ชาย วิดีโอผู้ชายมีเซ็กซ์ นามบัตรเกย์ รูปถ่ายตัวเขาเองกับเด็กหนุ่ม บางกรณีมีกระทั่งขนตาปลอม ฯลฯ สถานที่ซ่อนก็คือ ตามใต้เตียงนอน ห้องเก็บของ ลิ้นชัก ล็อกกุญแจ


10. เป็นคนอารมณ์ร้าย มีน้ำเสียงออกโทนแหลมอีกต่างหาก

เวลาเมามากๆ ชอบด่าทอผู้หญิงเสียๆ หายๆ มีน้ำเสียงออกโทนแหลมอีกต่างหาก มิใช่โทนต่ำอย่างที่ควรจะเป็น ถ้ามีปากเสียงกันรุนแรง อาจออกสาว ตุ้งติ้งไปเลย


11. เรียกชื่อภรรยา หรือแฟนผิดๆ ถูก

สลับกับชื่อชายหนุ่มอีกคนที่คุณไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยินมาก่อน


12 สังเกตให้ดี เวลาชายกลุ่มนี้ใช้โทรศัพท์ มักจะใช้แต่คำว่า อือ อือ อือ

ใครจะกล้าพูดอะไรหลุดออกมาได้ล่ะ ในเมื่อนั่นเป็นสายกิ๊กหนุ่มของเขา และบางครั้งอยู่ดี ๆ ก็รีบกุลีกุจอรีบออกไปจากบ้านทันที เพราะหนุ่มคนนั้นเรียกหา ตัวเองก็กลัวว่าเขาจะบอกเลิก ต้องรีบไปเอาใจ


13. ชายกลุ่มนี้มักจะแอบโทรหาหนุ่มๆ เจ๊าะแจ๊ะราวกับภรรยาหรือเป็นแฟนสาว

บางครั้งถ้าคุณสาวๆ โทรไปเช็กที่ออฟฟิศอาจได้ยินเสียงชายหนุ่มรับแทน หรือถ้าโทรศัพท์เข้ามือถืออาจจะไม่รับเสียดื้อๆ เพราะมัวแต่สนุกสนานเพลิดเพลินอยู่


14. คอยสังเกตว่า เวลาไปเดินห้างสรรพสินค้าด้วยกันดูเวลาที่สามีเจอผู้หญิงสวยๆ เขามองด้วยสายตาอย่างไร

ถ้ามองแบบจิกตาอย่างนี้ไม่ใช่ผู้ชายแน่ ๆ แล้วดูด้วยว่า แอบส่งตาหวานให้หนุ่มที่เดินสวนมาหรือเปล่า


15. ไปเช็กคอมพิวเตอร์ว่า เข้าเว็บไหนบ่อย ๆ

เวบอะไรที่คุณไม่เคยได้ยินนั่นแหละ ใช่ทั้งนั้น วิธีดูในคอมพ์ ในบราว์เซอร์ Explorer กดสัญลักษณ์ History ที่เป็นรูปนาฬิกา จะรู้เลยว่า วันไหน ดูเว็บอะไร แยกเป็นวัน ๆ ไป ยกเว้นแต่เขารอบคอบมาก เป็นหนุ่มไอที หรือมีความรู้เรื่องการทำลายหลักฐาน

10 วิธีดูแลมือ เท้า และเล็บ

10 วิธีดูแลมือ เท้า และเล็บ

ถ้า พูดถึงแฟชั่นแล้ว ทุกส่วนในร่างกายของเราก็มีสิทธิที่จะอัพเดทแฟชั่นได้เท่า ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นผม ที่ต้องคอยตามเทรนด์สี ทรง หรือจะเป็นร่างกาย ที่มักถวิลหาเสื้อผ้าที่ทันสมัย แบบ สีที่ไม่เอาท์ เท้า ก็ยังต้องการรองเท้าแบบที่ใส่สบาย แต่ไม่ตกเทนด์ หรือแม้กระทั่งเล็บ ก็ยังต้องการการแต่งแต้มสีสัน เพื่อความสวยงาม

และวันนี้เราก็มี 10 วิธีการดูแลมือ เท้า หลังจากที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน และเล็บ ที่ไม่ค่อยได้หายใจเมื่อคุณแต่งแต้มสีสันลงไป

เริ่มต้น เราต้องทำความสะอาดมือ เท้า และเล็บ เสียก่อน โดยการใช้แปรงขนนุ่ม กับสบู่อ่อน ๆ ถูเบา ๆ บริเวณมือ เท้า และเล็บ อย่าลืมที่จะถูใต้เล็บด้วยละ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่มีเชื้อโรคเข้าไปสะสมอยุ่มากที่สุด หลังจากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น

2. ควรตัดเล็บมือเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง ส่วนเล็บเท้า 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ไม่ ควรตัดเล็บจนชิดบริเวณผิวหนังส่วนปลายนิ้วเกินไปเพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อการ เป็นแผลแล้วยังทำให้พื้นที่หน้าเล็บสั้นลงได้ และถ้าตัดชิดขอบลึกลงไปเรื่อยๆ จะดูเหมือนเล็บของคนที่ชอบกัดเล็บซึ่งไม่สวยงาม สำหรับเล็บเท้าควรตัดในแนวตรงเป็นทรงเหลี่ยม ไม่ควรตัดเล็บลงซอกข้างเล็บมากเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดเล็บขบได้

3. รับประทานที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ เพราะเล็บก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ต้องการสารอาหารเพื่อการเจริญเติบโต เหมือนกัน ส่วนสารอาหารที่เล็บต้องการ เช่น โปรตีน วิตามินเอ ซี และอี รวมถึงแร่ธาตุสังกะสีที่มีอยู่ในอาหารทะเลและเมล็ดธัญพืช



4. นอกจากสารอาหารแล้ว การทาโลชั่นบำรุงผิวเป็นประจำทุกวัน ยัง ช่วยป้องกันผิวมือไม่ให้หยาบกระด้าง โดยเฉพาะหลังจากที่มือต้องสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ เช่น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน อีกวิธีหนึ่งที่เป็นการป้องกันก็คือ ในช่วงที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ ก็ให้สวมถุงมือทุกครั้ง

5. นวดนิ้วมือและเท้าด้วยครีมบำรุงหรือน้ำมันบำรุงผิว ประมาณ 3-5 นาที เพื่อ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณมือและเท้า ควรนวดบริเวณปลายนิ้วและเล็บด้วยเพื่อกระตุ้นการทำงานของต่อมสร้างเล็บที่ อยู่บริเวณโคนเล็บ ถ้าไม่สะดวกระหว่างวันสามารถทำได้ในช่วงก่อนเข้านอนแล้วสวมถุงมือผ้าและถุง เท้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการซึมซาบสู่ใต้ผิวของน้ำมันหรือครีมบำรุง หรือจะใช้สครับสำหรับนวดเท้า เพื่อการไหลเวียนโลหิตที่ดีขึ้น ซึงปัจจุบัน สครับสำหรับมือและเท้าก็หาซื้อได้ง่าย และสามารถทำได้เองที่บ้าน เสียเวลาไม่นาน แต่รับรองว่าสบายผิวแน่นอน

6. เนื่องจากธรรมชาติสร้างเล็บให้ออกมาในรูปแบบของแผ่นโปรตีนชนิดแข็ง และ ให้ทำหน้าที่ปกป้องปลายประสาทที่มีอยู่มากบริเวณปลายสุดของร่างกายไม่ให้ได้ รับความกระทบกระเทือน อีกทั้งยังทำหน้าที่ช่วยในการหยิบจับ และแกะเกา ส่วนหน้าที่งัดแงะของแข็ง หรือว่าใช้เป็นไขควงในการหมุนนั่นหมุนนี่ ผิดวัตถุประสงค์นะคะ อาจจะทำให้เล็บฉีกได้

7. สำหรับสาว ๆ ที่ชอบทาเล็บเป็นชีวิตจิตใจ เรียกว่าไม่ยอมให้เล็บได้หายใจเลยแล้วละก็ ฟังทางนี้ ควรทาน้ำยารองพื้นเล็บก่อนทาสี เพื่อป้องกันการเกิดสีที่ไม่พึงประสงค์หลัง จากการทาเล็บได้ระยะหนึ่ง และควรทาน้ำยาเคลือบเงาเล็บเพื่อความวาวและติดทนนาน แต่ไม่ควรทาเล็บสีเข้มติดต่อกันนานๆ ควรสลับสีอ่อนบ้าง และควรหยุดพักการทาเล็บเมื่อเห็นว่าสภาพเล็บดูแห้งหรือเกิดสีผิดปกติ

8. ในการเลือกซื้อน้ำยาทาเล็บ ควรคำนึงถึงการเลือกสีให้เหมาะสม ทั้งกับสีผิว โอกาสที่ใช้ สีเสื้อผ้า เครื่องสำอางและบุคลิกของตัวเอง

9. ควรศึกษาอ่านฉลากของผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ เช่น วันหมดอายุ หรือสังเกตสภาพของผลิตภัณฑ์ว่ายังมีคุณภาพดีหรือไม่ โดยทั่วไปอายุของเครื่องสำอางเล็บอยู่ที่ประมาณ 3 ปี หรือดูจากลักษณะการแยกตัวของสีหากหมดอายุแล้วไม่ควรใช้เด็ดขาด

10. ในส่วนของเท้าก็ต้องการการดูแลเช่นกัน การเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปร่างเท้าของเราก็ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยรักษาเท้าให้มีสุขภาพดี ซึ่งในการเลือกซื้อรองเท้านั้น เราควรเลือกรองเท้าที่สวมใส่พอดี ไม่คับ หรือหลวมจนเกินไป เพราะการเสียดสีในขณะที่เดินนานๆ จะทำให้ผิวเท้าเกิดหนังที่แข็งด้าน และการใส่รองเท้าที่คับเกินไปบริเวณปลายเท้าอาจเป็นสาเหตุให้เกิดเล็บขบ เวลาที่เหมาะสมในการเลือกซื้อรองเท้าคือช่วงกลางวันที่เท้าได้เดินจนขยายตัว แล้ว และหลังจากที่ใส่รองเท้าส้นสูงมาตลอดทั้งวัน หลังเลิกงาน ลองแช่เท้าในน้ำอุ่นสัก 10-15 นาที จะช่วยผ่อนคลายอาการเมื่อล้าที่เท้าได้ค่ะ

และนี่ก็คือ 10 วิธีการดูแลมือ เท้า และเล็บของคุณ ให้ดูมีสุขภาพดีอยู่ตลอดเวลา...

วิธีลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

วิธีลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
วิธีลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วมีอยู่ 3-4 วิธี ส่วนใหญ่ไม่นิยมทำกัน แต่ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มีคนทำกันบ้างแต่ไม่มากนัก สาเหตุที่ไม่ค่อยนิยมทำกัน เพราะวิธีการบางอย่างอาจจะต้องมีการทำผ่าตัดร่วมด้วย ผู้มารับการรักษา อาจต้องเจ็บตัวนอกเหนือจากเสียสตางค์แล้ว วิธีการเหล่านั้นคือ
1. การฉีดฮอร์โมนเข้าไปในร่างกาย เพื่อให้มีผลต่อการเผาผลาญพลังงานจากไขมัน นอกจากจะมีราคาแพงแล้ว ยังมีผลข้างเคียงรุนแรงค่อนข้างมาก ถึงขนาดมีการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะภายในบางอย่าง
2. การผ่าตัดมัดกระดูกขากรรไกรให้เข้าหากัน ปากของคนนั้นๆ ก็จะไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ กลืนอาหารเหลวได้เท่านั้น คงไม่มีใครคิดอยากจะลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ในเมืองไทย
3. การผ่าตัดเพื่อลดขนาดของกระเพาะ หรือการตัดต่อลำไส้เล็กใหม่ให้สั้นลง เพื่อลดเวลาในการดูดซึมสารอาหาร ในระหว่างผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก นอกจากนี้มีคนทดลองใส่ลูกโป่งเข้าไปในกระเพาะ เพื่อให้มีที่ว่างน้อยลง
4. การผ่าตัดหรือการดูดไขมันหน้าท้องออก ทั้งสองวิธีมีการทำในเมืองไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะบางคนโดยเฉพาะ สุภาพสตรี มีไขมันหน้าท้อง ซึ่งทำให้หน้าท้องหย่อนไม่สวยงาม จึงไปพบแพทย์เพื่อผ่าตัดเอาไขมัน และทำให้ หน้าท้อง ตึงขึ้น ส่วนการดูดไขมันออกทางหน้าท้อง ใช้วิธีเจาะช่องหน้าท้องแล้วเอาเครื่องมือสอดเข้าไปในชั้นไขมัน ใต้ผิวหนัง เพื่อดูดเอาไขมันออก
วิธีที่กล่าวมาทั้งหมด คงจะไม่มีวิธีไหนดีไปกว่าการค่อยๆ ลดน้ำหนัก โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคอาหาร และการออกกำลังกาย แต่ถ้าท่านต้องการทำจริงๆ ท่านควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเสียก่อนที่ท่านจะตัดสินใจ
วิธีลดน้ำหนัก/วิธีลดความอ้วน
1.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่พยามยามลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล และไขมัน และไม่ควรงดมื้อใดมื้อหนึ่ง เพราะอาจทำให้คุณรับประทานอาหารมื้อถัดไปมากขึ้น ที่สำคัญควรรับประทานประเภทผักใบเขียว เพราะจะมีใยอาหาร อยู่มาก
2.พยายามดื่มน้ำก่อนอาหาร เพื่อถ่วงกระเพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้ทานอาหารได้น้อยลง หรือเลือกรับประทาน ใยอาหาร ก่อนอาหารประมาณครั้งชั่วโมงแทน
3.เพื่อผลทางจิตวิทยา ควรใช้ภาชนะเล็กลง โดยมีปริมาณอาหารเท่าเดิมเพื่อให้ดูว่ามีอาหารมากขึ้น และควรใช้ ช้อนขนาดเล็กเพื่อจะได้รับประทานช้าลง ที่สำคัญควรฝึกเคี้ยวช้า ๆ จะทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง และรู้สึกอิ่มได้เร็วขึ้น
4.หาเวลาออกกำลังกายที่เหมาะสมมากขึ้น มักมีความเชื่อผิด ๆ กันว่า การออกกำลังกายมากขึ้นจะทำให้หิวเร็ว และรับประทานอาหารมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การที่ไม่ได้ออกกำลังกายจะทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย จึงมักขจัด ความเบื่อนี้ด้วยการรับประทาน การออกกำลังกายจึงเป็นวิธีช่วยลดความเบื่อหน่าย และเพิ่มการใช้พลังงาน เพื่อเผาผลาญไขมันสะสมให้ลดน้อยลง
5.สร้างสิ่งจูงใจ หรือทัศนคติดี ๆ ต่อพฤติกรรมใหม่ ๆ เช่น การเขียนข้อความเกี่ยวกับการลดความอ้วน หรือชุดสวย ๆ ในสมัยก่อนที่เคยใส่ได้ เพื่อให้เห็นถึงเป้าหมาย และสามารถกระตุ้นหรือจูงใจให้มีความพยายามมากขึ้น และที่สำคัญ ที่สุด พยายามพักผ่อนให้มาก ๆ ไม่มีประโยชน์เลย ถ้ามีรูปร่างที่สวยงามอย่างที่ต้องการ แต่ต้องอาศัยอยู่ ในโรงพยาบาล เนื่องจากสุขภาพไม่ดี

1/27/2009

"ข้าวกล้องงอก อุดมประโยชน์"

มนุษย์ทุกคนต้องการที่จะมีสุขภาพ พลานามัยที่ดี วันนี้ดิฉันจึงได้นำความรู้เกี่ยวกับการรับประทานข้าวกล้องให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้กับทุกท่านได้ทราบกันค่ะ

งานวิจัยล่าสุดจากการค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อารหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า การกินข้าวกล้องให้ได้ประโยชน?สูงสุดต้องนำมาแช่น้ำให้งอกเสียก่อน เพราะให้สารอาหารจำนวนมากโดยเฉพาะ "กาบา" (Gamma-Aminobutyric) กรดแอมิโนชนิดหนึ่งซึ่งช่วยบรรเทาโรควิตกกังลว นอนไม่หลับ โรคลมชัก ลดความดันโลหิต โรคมะเร็ง เบาหวาน และควบคุมน้ำหนักให้เป็นปกติ

ธัญพืชเพื่อสุขภาพ

ธัญพืชเป็นอาหารสุขภาพที่กำลังมาแรง นิยมผสมในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสุขภาพ เช่น นม หรือเครื่องดื่มธัญญาหารสำเร็จรูป พบ 4 ธัญญาพืชยอดฮิตที่มาพร้อมสารอาหารหลากชนิด

ข้าวสาลี
อุดมด้วยสารอารมากก่า 100 ชนิด มีแร่ธาตุต่างๆที่ร่างกายต้องการครบถ้วน มีวิตามินกลุ่มบีคอมเพล็กซ์ เป็นแหล่งโปรวิตามินเอสูงที่สุดในบรรดาอาหารต่างๆ ทั้งยังมีวิตามินซี อี และเค ในปริมาณมาก
วิตามินและแร่ธาตุสำคัญๆจะอยู่บริเวณเปลือกข้าวและจมูกข้าว เครื่องดื่มบางชนิดจึงมักผสมจมูกข้าวสาลีเพื่อเพิ่มประโยชน์ นอกจากนี้ต้นข้าวสาลียังเป็นพืชที่มีคลอโรฟิลล์และออกซิเจนสูง นิยมนำมาคั้นดื่มสดๆเพื่อล้างพิษในร่างกาย

ลูกเดือย
เป็นธัญญาพืชที่ให้พลังงานสูง และมีโปรตีนคุณภาพสูง ในตำรายาจีนมักใช้ลูกเดือยบดผสมข้าวต้มเป็นข้าวต้มกินเพื่อบำรุงกำลัง ลูกเดือยยังมีสารอาหารอื่นๆอีก เช่น วิตามินบี วิตามินเอ โพเทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม ใยอาหาร และกรดแอมิโนที่ช่วยให้หลับง่ายขึ้น

ข้าวโอ๊ต
ข้าวโอ๊ตอุดมด้วยใยอาหารชนิดละลายน้ำๆด้ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำเล็กๆที่คอยดูดซับอาหารจำพวกน้ำตาล แป้ง และไขมันในลำไส้เล็ก และนำพาไปยังระบบขับถ่าย จึงช่วยลดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดและลดลดความเสี่ยงโรคต่างๆ
ข้าวโอ๊ตยังมีใยอาหารขนิดที่ไม่ละลายน้ำซึ่งช่วยเร่งให้อุจจาระเคลื่อนผ่านลำไส้ใหญ่ได้เร็วขึ้น จึงป้งกันและแก้ท้องผูก

งาดำ
งาดำเป็นธัญญาพืชที่มีแคลเซียมสูงที่สุด โดยมีแคลเซ๊ยมสูงกว่านมวัวถึง 10 เท่า และอุดมด้วยวิตามินบี ทั้ง บี1 บี2 บี3 บี5 บี6 และบี9 ซึ่งช่วยบำรุงประสาทและยังมีวิตามินอีสูง
การกินงาดำเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระฉับกระเฉงและกระดูกแข็งแรง จึงนิยมนำมาผสมในเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ

ทั้งหมดนี้คือ 4 ธัญญาพืชยอดฮิตที่ดิฉันอยากแนะนำให้ทุกๆท่านลองหามารับประมานกันเพื่อโภชนาการที่ดี และส่งเสริมให้สุขภาพดีด้วยเช่นกัน ^^

1/23/2009

หมาหน้าดำ หางหมู -__-


ขึ้นต้นแบบนี้คงพอจะเดาออกแล้วใช่มั๊ยจ๊ะว่าเป็นหมาพันธุ์อะไร ปัก นั่นเอง หมาพันธุ์ดูภายนอกจะดูไม่น่ารักเอาซะเลย แต่ว่าตรงกันข้ามกับนิสัยของเจ้าปักอย่างมาก ปักเป็นหมาที่เข้ากับเด็กค่อนข้างง่าย รักเด็กว่างั้นเถอะ เป็นหมาที่ร่าเริงมากมากจนบางทีก็เหมือน ม้าดีดกะโหลก เวลาเจอเจ้าของก็จะปรี่เข้ามาทันทีพร้อมทั้งกระกุยตระกายใส่แต่ควรระวันนะคะเพราะ เล็บของเขาจะข่วนคุณแล้วนั่นก็จะทำให้เจ้าของเป็นรอยตลอด และเจ้าปักก็เป็นโรคกลัวความสูงอย่างมากก แต่อย่างนึงที่เขาชอบคือการว่ายน้ำ เพราะเวลาได้ลงน้ำเจ้าปักจะดูร่าเริงเป็นพิเศษ ปักมักจะมีนิสัยหรือพฤติกรรมตลก ๆ ให้เราได้หัวเราะตลอดเวลา เวลาที่เราเดินหรือไปนั่งตรงไหนเขาก็จะตามไปด้วย เรียกว่าติดเจ้าของสุด ๆ แต่บางทีนอน ๆ ก็ตดปุ๊งดังมากแล้วก็ตลกใจตื่นทำหน้าตาไม่รู้เรื่อง แบบว่า ใครอ่ะ ใครทำ หนูป่าวนะ แล้วก็นอนต่อหน้าตาเฉยเลย เวลากินข้าวก็เหมือนไม่ได้กินเหมือนจะดูดเข้าไปมากกว่า เหมือนเครื่งดูดฝุ่นอะไรประมาณนี้ แปปเดี๋ยวก็หมด กินเก่งมาก เคยมีครั้งนึงที่เขาตระกระมาก เห็นอะไรไม่รูตกพื้นรีบวิ่งมากินแต่สรุปแล้วรู้มั๊ยว่าเป็นอะไร พริกนั่นเองคะ คราวนี้เลยเข็ดไปอีกนาน เพราะฉนั้นเจ้าของควรระวังด้วยนะคะอ เพราะหมาพันธุ์นี้เห็นอะไรเป็นกินหมด อีกอย่างนึงที่น่าห่วงก็คือเรื่องการหายใจของเขาเพราะว่า หมาตัวนี้เขามีท่อหายใจสั้นเวลาออกกำลังกายมากเกินไปอาจเป็นปัญหาได้ และอีกอย่างนึงก็คือโรคปอดบวมคะ นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรมากแล้วคะ แค่เอาความรักของคุณให้เขามาก ๆ ก็พอแล้วคุณจะได้มันกลับมาแบบไม่น่าเชื่อเลย

12/29/2008

"จักรพรรดิฟูฉี"

"จักรพรรดิฟูฉี" เป็นผู้ให้กำเนิดปรัชญาจีนไว้ในคัมภีร์ "อี้จิง" (ซึ่งแปลว่าความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ จีนยกย่องว่าเป็นแผนที่นำทางให้กับมนุษย์ทั้งด้านการดำเนินชีวิต การตัดสินใจ และการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกว่าที่เป็น) ปรัชญาของพระองค์มีรากฐานมาจากการผสมเส้นตรง กล่าวคือ เส้นตรงเดี่ยว เรียกว่า หยาง เป็นตัวแทนเพศชาย และเป็นสัญลักษณ์แทนความแข็งแกร่ง ส่วนเส้นตรงแยกเรียกว่า หยิน เป็นตัวแทนเพศหญิง และเป็นสัญลักษณ์แทนความอ่อนโยนแปรปรวน หยางและหยินแม้จะมีลักษณะตรงกันข้ามกัน แต่ทั้งสองก็รวมกันเป็นสิ่งที่เรียกว่า เอกภาวะ ได้ หรือประสานกลมเกลียวกันโดยอาศัยความแตกต่างนั่นเอง ขณะที่ตำราชื่อ "กวานจื้อ" บันทึกไว้ว่าหยางหยินเป็นหลักสำคัญของสวรรค์และแผ่นดิน คติจีนเชื่อว่าสรรพสิ่งในสากลจักรวาล ล้วนมีสองด้านคือหยินและหยาง เป็นกฎแห่งความสมดุลของธรรมชาติ เป็นปรัชญาของลัทธิเต๋าที่เชื่อว่าสรรพสิ่งบนโลกใบนี้จะต้องมีสิ่งคู่กันเสมอ มีมืดก็ต้องมีสว่าง มีร้อนก็ต้องมีเย็น มีผู้หญิงก็ต้องมีผู้ชาย หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป หรือมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากหรือน้อยเกินไปก็จะเกิดภาวะไม่สมดุลซึ่งจะนำหายนะมาให้ ที่สุดแล้วคือ "หยิน" เป็นตัวแทนของความมืดมิด ไม่เคลื่อนไหว อ่อนล้า เศร้าโศก ความตาย ความหนาวเย็น ผู้หญิง "หยาง" เป็นตัวแทนของความกระตือรือร้น พลังงาน แสงสว่าง ผู้ชาย การเกิด การเคลื่อนไหวที่ไม่หยุดนิ่ง หยินและหยางเป็นพลังตรงข้ามที่คู่กัน เปลี่ยนแปลงและส่งเสริมซึ่งกันและกัน พลังซึ่งคู่กันนี้หากเท่ากันจะสร้างความสมดุล เช่น บวก-ลบ ชาย-หญิง พระอาทิตย์-พระจันทร์ ร้อน-หนาว กลางวัน-กลางคืน โดยสิ่งแรกในแต่ละคู่คือหยาง อีกสิ่งคือหยิน ต่อมาเกิดมีพัฒนาการทางปรัชญาเพิ่มเติมขึ้นมาว่าแท้จริงแล้วในท่ามกลางหยางก็มีหยิน และในท่ามกลางหยินก็มีหยาง หยินหยางเป็นปรัชญาในลัทธิเต๋าที่มีรูป "ไท่จี๋" เป็นสัญลักษณ์ คือรูปวงกลมและมีเส้นโค้งแบ่งเป็นสองส่วนขาวดำ อุปมาว่าเป็นมัจฉาคือปลาสองตัว ปลาสีขาวเป็นตัวแทนของหยาง ส่วนปลาสีดำเป็นตัวแทนของหยิน ตาของปลาสีขาวเป็นจุดดำ แต่ตาของปลาสีดำเป็นจุดขาว คือในหยางมีหยิน และในหยินมีหยาง ผสมกลมกลืน ว่ากันว่าความคิด ความเชื่อ และปรัชญาจีนอย่างหยางหยิน เป็นปัจจัยหลักของยุคเฟื่องฟูทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของชาวจีนในสมัยราชวงศ์ซ้อง และความเจริญในช่วงนี้ได้ส่งผลต่างๆ ต่อจีนมากมาย เช่น สภาพเศรษฐกิจเฟื่องฟู สิทธิสตรีตกต่ำ เป็นต้น